แนะนำการใช้ Bloc ด้วยเคานท์เตอร์แอพแบบต้นฉบับด้วย event-driven ในไฟล์เดียวจบๆ (เหมือนเดิม)
ต่อจากบทความที่แล้ว เกี่ยวกับการใช้ Bloc library ด้วย Cubit ในบทความนี้จะเป็นบทความการใช้ Bloc library เช่นเดียวกันแต่เป็นรูปแบบ event-base ที่เป็น Bloc pattern แบบเต็มตัว จุดประสงค์คือให้เห็นการใช้งานที่ง่ายที่สุดในเคาน์เตอร์แอพ และเปรียบเทียบกับการใช้แบบ Cubit ได้ชัดเจน เพื่อให้เห็นข้อดีและข้อเสีย เพื่อเป็นข้อมูลในประกอบการตัดสินใจเลือกว่าจะใช้วิธีไหนในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น
อย่าลืมนะครับว่านี่เป็นการรวมไฟล์มาในหน้าเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ การใช้งานจริงต้องวางตาม structure ของโปรเจคด้วยนะครับ
การใช้งานในส่วนที่เหมือนกันกับ Cubit
ในหัวข้อนี้ผมจะไม่ได้ยกโค้ดขึ้นมาเป็นตัวอย่างเพราะกลัวว่าจะทำให้ซับสนและซ้ำซ้อนกับของเดิมได้ อยากให้โฟกัสกับจุดที่ต่างกันเท่านั้นจริงๆดีกว่า ซึ่งหัวข้อที่เหมือนกันในการใช้ก็คือ
การใช้งานที่แตกต่างจาก Cubit
ในส่วนหัวข้อด้านล่างนี้จะเป็นส่วนที่แตกต่างจากการใช้งาน Bloc ด้วย Cubit ทีเป็น function-driven โดยที่ตัวอย่างที่เราใช้ในบนความนี้จะเป็น Bloc library แบบ event-driven โดยที่ event จากแอพเคาน์เตอร์ก็จะมีเพียงแค่สอง event สำหรับเพิ่มและลดเคาน์เตอร์
สร้าง Bloc class และกำหนด event
เมื่อเทียบกับ Cubit แล้ว Bloc จะมีการกำหนด Event ขึ้นมาแทนที่จะเรียกผ่าน method ด้วยตรง ในการที่จะ update state ต้องมีการเรียก event เพื่อ emit
ค่าใหม่ออกไป
โดยที่ CounterEvent
ของเราจะเป็น abstract class ซึ่งหมายถึงว่าคลาสนี้จะเป็นคลาสที่ไม่ได้มีการเรียก constructor เพื่อสร้าง instance ได้โดยตรง แต่จะเป็นคลาสที่จะต้องไป extends เพื่อประกาศเป็น class ใหม่ ซึ่งทำให้ class ที่ extends class นี้ไป (IncrementEvent
และ DecrementEvent
) ยังถือว่าเป็น class เดียวกัน ซึ่งก็คือ CounterEvent
class
การเรียก event เพื่ออัพเดตค่า state
ในการเรียก event ก็แทบจะคล้ายกับการเรียก method เลยแต่แทนที่จะเรียก method โดยตรง แต่จะเป็นการ add event เข้าไปที่ Bloc คล้ายๆกับการใส่ event เข้าไปใน stack แล้ว Bloc จะเช็คว่ารับ event อะไรมาแล้ว update state ตามเงื่อนไขที่เขียนไว้
สรุป
ในบทความนี้ได้มีการแสดงการเขียนเคาน์เตอร์แอพด้วย Bloc แบบ event-driven เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนกับแบบ function-driven ด้วย Cubit ที่เขียนในบทความที่แล้ว จะเห็นว่าในการเขียนสิ่งเดียวกันการเขียนแบบ Bloc ปกติจะใช้มีโค้ดที่ต้องเตรียมไว้ (boiler plate) มากกว่าเพื่อจะซัพพอร์ตการเรียก event ต่างๆ โดยตามที่เอกสารแนะนำก็คือให้เลือกใช้แบบ Bloc ในแอพที่ต้องการสเกลแล้วต้องการรับกับ event ที่ซับซ้อนในแอพพลิเคชั่น แต่ก็ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่าสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับทางทีมนักพัฒนาเองที่สบายใจหรือถนัดที่จะใช้แบบไหนมากกว่ากัน ส่วนตัวผมยังคงไปทางการใช้ Cubit มากกว่าเพราะการใช้งานที่ตรงไปตรงมาและแอพพลิเคชั่นที่ทำเป็นโปรเจคส่วนตัวก็ไม่ได้มี event อะไรซับซ้อนด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ที่สนใจใช้ Bloc library เริ่มใช้งานได้ง่ายขึ้นนะครับ