ถาม Chat มาให้ ค่า double แปลกๆอย่าง double.maxFinite double.minPositive คืออะไร

ในตอนที่เราเรียกใช้ค่าอย่าง double เรามักจะเห็นแว็บๆว่า double นั้นมีค่าให้ใช้ไม่ไม่ค่อยคุ้นอย่างเช่น double.maxFinite และ double.minPositive ในขณะที่ double.infinity นั้นเองจะมีได้ใช้อยู่บ้างในการที่ต้องการขยาย Container ให้สุด แล้วค่า double ต่างๆนี้มันต่างกันอย่างไร ผมเลยหาข้อมูลด้วยการถาม ChatGPT ดูแล้วเอามาแชร์กันครับ

คำถาม Prompt แรก

ในภาษา Dart double.infinity, double.maxFinite, double.minPositive, double.nan และ double.negativeInfinity ต่างกันอย่างไรและใช้สำหรับทำอะไร

คำตอบ Prompt แรก

ในภาษา Dart ค่าคงที่ใน double ได้แก่ double.infinity, double.maxFinite, double.minPositive, double.nan, และ double.negativeInfinity มีหน้าที่และการใช้งานที่ต่างกันดังนี้:

1. double.infinity

• ใช้แทนค่า “อนันต์” ในเชิงบวก

• เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการค่าที่ใหญ่กว่าเลขจำนวนจริงใด ๆ เช่น ขยายขนาด widget ให้เต็มพื้นที่ที่รองรับ

• เช่นใน Flutter สามารถใช้กับ Container เพื่อให้มีขนาดกว้างที่สุดได้โดยตั้งค่าเป็น double.infinity

2. double.maxFinite

• ค่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาตัวเลขที่เป็นจำนวนจริงที่ Dart สามารถเก็บได้โดยไม่ใช่อนันต์ (infinity)

• เหมาะสำหรับการกำหนดค่าขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังคงเป็น finite (เช่น scrollable widget ที่ต้องการขยายพื้นที่เต็มโดยไม่เกินขอบเขต)

3. double.minPositive

• ค่าบวกที่เล็กที่สุดที่ไม่ใช่ศูนย์

• ใช้ในกรณีที่ต้องการค่าที่เล็กมาก ๆ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจากการใช้ 0 ในการคำนวณหรือหาร เช่นกำหนดให้มีช่องว่างที่บางที่สุดที่ยังแสดงผลได้

4. double.nan

• แทนค่า “ไม่ใช่ตัวเลข” (Not-a-Number) มักเกิดจากการคำนวณที่ไม่สามารถระบุค่าได้ (เช่น 0/0)

• ใช้เพื่อตรวจสอบหรือระบุข้อผิดพลาดในกรณีที่การคำนวณล้มเหลว ซึ่ง double.nan ไม่เท่ากับค่าตัวเลขใด ๆ และแม้แต่ตัวมันเอง

5. double.negativeInfinity

• ค่าที่แทนความหมายของ “อนันต์ในเชิงลบ”

• ใช้ในกรณีที่ต้องการค่าที่เล็กกว่าเลขจำนวนจริงใด ๆ เช่น ในการคำนวณที่จำเป็นต้องกำหนดค่าต่ำสุดที่ไม่สิ้นสุด

ตัวอย่างการใช้งานใน Flutter:

import 'package:flutter/material.dart';

void main() {
  runApp(MyApp());
}

class MyApp extends StatelessWidget {
  @override
  Widget build(BuildContext context) {
    return MaterialApp(
      home: Scaffold(
        appBar: AppBar(title: Text('Double Constants in Dart')),
        body: Center(
          child: Column(
            mainAxisAlignment: MainAxisAlignment.center,
            children: [
              // ตัวอย่างการใช้ double.infinity
              Container(
                color: Colors.blue,
                width: double.infinity,
                height: 50,
                child: Center(child: Text('Width: double.infinity')),
              ),
              SizedBox(height: 20),
              // ตัวอย่างการใช้ double.maxFinite
              Container(
                color: Colors.green,
                width: double.maxFinite,
                height: 50,
                child: Center(child: Text('Width: double.maxFinite')),
              ),
              SizedBox(height: 20),
              // ตัวอย่างการใช้ double.minPositive
              Container(
                color: Colors.red,
                width: 100,
                height: double.minPositive,
                child: Center(child: Text('Height: double.minPositive')),
              ),
              SizedBox(height: 20),
              // การใช้งาน double.nan
              Text(double.nan.toString() == 'NaN'
                  ? 'Result is NaN (not a number)'
                  : 'Result is a number'),
              // การใช้งาน double.negativeInfinity
              Container(
                color: Colors.purple,
                width: double.infinity,
                height: 50,
                child: Center(
                  child: Text(double.negativeInfinity.isNegative
                      ? 'Negative Infinity'
                      : 'Not Negative Infinity'),
                ),
              ),
            ],
          ),
        ),
      ),
    );
  }
}

สรุปการใช้งาน

• double.infinity: ใช้เมื่อต้องการขยายขนาดให้มากที่สุดที่เป็นไปได้

• double.maxFinite: ใช้เมื่อจำเป็นต้องขยายเต็มพื้นที่แต่ไม่เกินขอบเขตที่ไม่เป็นอนันต์

• double.minPositive: ใช้เพื่อกำหนดค่าที่เล็กที่สุดที่ยังไม่ใช่ศูนย์

• double.nan: ใช้ระบุหรือเช็คข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้

• double.negativeInfinity: ใช้สำหรับค่าที่ต่ำที่สุดที่ไม่สิ้นสุด

จากตัวอย่างที่ให้มาก็ทำให้เห็นว่าค่าคงที่เหล่านี้ทำงานยังไงแต่ผมก็รู้สึกว่ายังไม่การใช้งานที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ค่าพวกนี้ผมเลยลองถามต่อ

คำถาม Prompt ที่สอง

ตัวอย่างที่ให้มาทำให้นึกภาพได้ชัดเจนดี แต่ว่ามีตัวอย่างที่ทำให้ต้องจำเป็นใช้ค่าคงที่พวกนี้มั้ยแทนที่จะใช้ค่า double ธรรมดา ฉันนึกออกแต่ตอนที่ต้องการขยาย Container ให้กว้างที่สุดได้โดยใช้ double.infinity แต่นึกความจำเป็นของ double.maxFinite double.minPositive double.nan และ double.negativeInfinity ไม่ออก

คำตอบ Prompt ที่สอง

แน่นอนครับ ค่าคงที่ double.maxFinite, double.minPositive, double.nan, และ double.negativeInfinity มีประโยชน์ในกรณีเฉพาะเมื่อการใช้ค่า double ทั่วไปอาจไม่เพียงพอ ซึ่งเดี๋ยวเรามาดูตัวอย่างที่มีการใช้งานจริงที่เหมาะสมกับแต่ละค่ากันครับ

1. double.maxFinite - ใช้เมื่อต้องการค่า “สูงสุดที่เป็นไปได้” แต่ไม่เกินขอบเขตของ finite number

• สถานการณ์: เมื่อใช้ในโปรแกรมที่คำนวณหาขนาดหรือระยะทางมากที่สุดโดยไม่ใช้อนันต์ (เช่น การกำหนดค่าเริ่มต้นในการเปรียบเทียบขนาด หรือความสูง/กว้างของ widget ที่ไม่ต้องการค่าต่ำกว่า double.infinity)

• ตัวอย่าง: การหาขนาด widget ที่ใหญ่ที่สุดโดยตั้งค่าเริ่มต้นเป็น double.maxFinite

List<double> widgetHeights = [150, 200, 450, 100];
double maxHeight = double.maxFinite;

for (var height in widgetHeights) {
  if (height < maxHeight) {
    maxHeight = height;
  }
}
print('Minimum height: $maxHeight');

2. double.minPositive - ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงค่าศูนย์ที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดทางคณิตศาสตร์

• สถานการณ์: ใช้ในกรณีที่ต้องการค่าใกล้ศูนย์ที่สุดแต่ไม่ใช่ศูนย์ ซึ่งสามารถใช้ในทางการคำนวณที่ต้องการหลีกเลี่ยงการหารด้วยศูนย์ หรือการคำนวณเกี่ยวกับเลขทศนิยมที่เล็กมาก ๆ

• ตัวอย่าง: การหลีกเลี่ยงการหารด้วยศูนย์

double divisor = 0; // การทำแบบนี้อาจทำให้เกิด error ได้
double safeDivisor = divisor == 0 ? double.minPositive : divisor;
double result = 100 / safeDivisor;
print('Result: $result');

3. double.nan - ใช้ในการตรวจสอบกรณีที่ค่าคำนวณผิดพลาดหรือไม่สามารถระบุได้

• สถานการณ์: เมื่อต้องการตรวจสอบค่าที่อาจเป็นผลจากการคำนวณที่ผิดพลาด เช่น การคำนวณหารที่ไม่สามารถกำหนดผลลัพธ์ได้ เช่น 0 / 0 หรือ sqrt(-1)

• ตัวอย่าง: การตรวจสอบค่า NaN

double value = 0 / 0;
if (value.isNaN) {
  print('Error: Calculation resulted in NaN');
} else {
  print('Result: $value');
}

4. double.negativeInfinity - ใช้เมื่อต้องการเริ่มต้นค่าต่ำสุดในเชิงลบ

• สถานการณ์: ใช้ในการคำนวณหาค่าสูงสุดของลิสต์ เช่น หาค่า max จากลิสต์โดยไม่ต้องการค่าเริ่มต้นเป็นค่าตัวเลขที่จำกัด

• ตัวอย่าง: การหาค่า max โดยใช้ negative infinity

List<double> scores = [-10, 0, 25, -30, 15];
double maxScore = double.negativeInfinity;

for (var score in scores) {
  if (score > maxScore) {
    maxScore = score;
  }
}
print('Maximum score: $maxScore');

สรุปสั้น ๆ

• double.maxFinite เหมาะกับการกำหนดค่าขนาดใหญ่สุดแบบ finite โดยไม่ต้องการค่า infinite

• double.minPositive เหมาะกับการกำหนดค่าใกล้ศูนย์ที่สุดที่ไม่ใช่ศูนย์เพื่อป้องกัน error

• double.nan ใช้ตรวจสอบค่าที่ไม่ใช่ตัวเลข ซึ่งอาจเกิดจากการคำนวณผิดพลาด

• double.negativeInfinity ใช้เพื่อเริ่มต้นค่าต่ำสุดในกรณีที่ต้องการหาค่าสูงสุด

คำถาม Prompt ที่สาม

มีตัวอย่างอื่นสำหรับ double.maxFinite มั้ย เพราะฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ double.maxFinite ก็สามารธรัน function นั้นได้เหมือนกัน ฉันเลยคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเท่าไร

คำตอบ Prompt ที่สาม

คุณเข้าใจถูกต้องครับ ในตัวอย่างที่ให้ไปสำหรับ double.maxFinite สามารถใช้ค่าตัวเลขทั่วไป (เช่น 100000) แทนได้ จึงอาจไม่ใช่ตัวอย่างที่ทำให้เห็นถึงความ “จำเป็น” ในการใช้ double.maxFinite ดังนั้น เรามาดูกรณีอื่นที่ double.maxFinite มีความจำเป็นและมีประโยชน์มากขึ้นครับ

ตัวอย่างเพิ่มเติมที่ใช้ double.maxFinite

1. การจัดการการเลื่อนเนื้อหาใน Flutter

• ใน Flutter มีบางครั้งที่เราต้องการขยายความกว้างหรือความสูงของ widget ให้เต็มพื้นที่ที่เลื่อนได้สูงสุด โดยไม่ให้มีการเลื่อนที่ไม่สิ้นสุด (infinite scroll)

• double.maxFinite สามารถใช้เป็นค่ากำหนดให้กับ widget เช่น ListView หรือ SingleChildScrollView เพื่อให้ความสูงจำกัดอยู่ในขอบเขตที่เป็นไปได้ (finite) โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดที่เกิดจาก double.infinity

import 'package:flutter/material.dart';

class MaxFiniteExample extends StatelessWidget {
  @override
  Widget build(BuildContext context) {
    return Scaffold(
      appBar: AppBar(title: Text('Max Finite Example')),
      body: SingleChildScrollView(
        child: Container(
          width: double.infinity,
          height: double.maxFinite, // กำหนดความสูงสูงสุดที่เป็น finite
          color: Colors.blue,
          child: Center(child: Text('Scrollable Content within max finite height')),
        ),
      ),
    );
  }
}

2. จำกัดขนาดการแสดงผลในกรณีคำนวณ Layout ที่มีความกว้าง/ความสูงใหญ่พิเศษ

• ในบางครั้งการใช้งาน double.infinity กับ widget บางตัวอาจเกิด error (เช่น Overflow error) โดยเฉพาะเมื่อ widget นั้นต้องการขนาด finite ในการแสดงผล ดังนั้น double.maxFinite จะช่วยให้ขนาดอยู่ในขอบเขตที่ Dart และ Flutter สามารถจัดการได้โดยไม่เกิดข้อผิดพลาด

• ตัวอย่างเช่น ในการกำหนดขอบเขตความกว้างสูงสุดสำหรับ Container หรือ ConstrainedBox ที่ต้องการขนาดแน่นอน แต่เราต้องการขนาดใหญ่ที่สุดที่ไม่เกินขอบเขต finite

import 'package:flutter/material.dart';

class MaxWidthExample extends StatelessWidget {
  @override
  Widget build(BuildContext context) {
    return Scaffold(
      appBar: AppBar(title: Text('Max Finite Width Example')),
      body: Center(
        child: ConstrainedBox(
          constraints: BoxConstraints(
            maxWidth: double.maxFinite, // ขอบเขตความกว้างสูงสุดแบบ finite
          ),
          child: Container(
            color: Colors.green,
            padding: EdgeInsets.all(16.0),
            child: Text(
              'This container has a max width of maxFinite, avoiding overflow issues with large sizes',
              style: TextStyle(color: Colors.white),
            ),
          ),
        ),
      ),
    );
  }
}

3. กรณีที่ต้องใช้ค่าขอบเขตสูงสุดในอัลกอริทึม

• หากคุณเขียนอัลกอริทึมที่ต้องการค่าเริ่มต้นสูงสุด (เช่น การค้นหาค่าที่เล็กที่สุดในชุดข้อมูลที่มีขนาดไม่จำกัด) การใช้ double.maxFinite เป็นค่าเริ่มต้นจะช่วยให้แน่ใจว่าเราจะไม่หลุดออกจากขอบเขตของ double

List<double> prices = [150.0, 120.5, 99.99, 200.0];
double minPrice = double.maxFinite; // เริ่มต้นด้วยค่าสูงสุดที่ไม่เกินขอบเขต

for (var price in prices) {
  if (price < minPrice) {
    minPrice = price;
  }
}
print('Minimum price: $minPrice'); // ได้ผลลัพธ์เป็น 99.99

ในกรณีเหล่านี้ double.maxFinite จะช่วยให้เราจัดการขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถจัดการได้แบบ finite โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการใช้ double.infinity ครับ

สรุป

จากคำตอบทั้งหมดของ ChatGPT ผมคิดว่าผมได้คำตอบที่เข้าใจการใช้งานได้มากขึ้น ถ้าเอาสรุปสำหรับตัวผมเองผมก็จะจำไว้ว่า

• double.inifinity ใช้เมื่อตอนต้องการขยายสุดพื้นที่ ต้องการเล่นกับเลขอนันต์ในการคำนวณค่าต่างๆ

• double.maxPositive ใช้เมื่อต้องการขยายสุดพื้นที่เช่นกันแต่ว่าพื้นที่ดังกล่างไม่สามารถเป็นค่า infinite ได้ หรือถ้าใช้ double.inifinity แล้วเกิด error

• double.minPositive ใช้เมื่อต้องการค่าเหมือนเป็น 0 แต่ว่าไม่สามารถรับค่าเป็น 0 ได้ (ซึ่งอันนี้ยังคิดการใช้งานที่จำเป็นสุดๆไม่ได้เหมือนกัน)

• double.nan ใช้สำหรับเช็คค่า double

• double.negativeInfinity ใช้เหมือน infinity ในการเป็นค่าเริ่มต้นที่สามารถเป็นลบได้

ส่วนตัวผมเองชอบคำตอบที่ได้เกี่ยวกับ double.maxPositive มากที่สุดเพราะน่าจะเอาไปใช้ได้ดีอย่างวิดเจ็ตที่เราใช้บ่อยอย่างเช่น SingleChildScrollView และปัญา overflow ที่อาจจะเกิดขึ้นตอนเราพยายามใช้ double.infinity ได้ และนี่ก็เป็น prompt ที่ต้องการจะบันทึกไว้เพราะก็สงสัยทุกครั้งที่เจอและตั้งใจจะแชร์ให้ทุกคนได้อ่าน อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดเวลาคนอ่านไม่ต้องไปนั่ง prompt เองอีกที หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ